วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

คำศัพท์หมวดผลไม้ในภาษาญี่ปุ่น

1. オレンジ       orenji โอะเร็นจิ : ส้ม
2.りんご          ringo ริงโงะ : แอปเปิล
3. ぶどう          budo บุโด : องุ่น
4. すいか          suika ซุยขะ : แตงโม
5. もも             momo โมะโมะ : ลูกท้อ
6. かき             kaki คะขิ : ลูกพลับ
7. いちご         ichigo อิจิโงะ : สตรอเบอร์รี่
8. ストロベリー     sutoberii:  สุโทะโระเบะรี สตรอเบอร์รี่
9. きいちご     kiichigo คิอิจิโงะ : ราสเบอร์รี่
10. パイナップル   painappuru ไปนัปปุหรุ : สับปะรด
11. ココナッツ      kokonatsu โคะโคะนัททสึ : มะพร้าว
12. マンゴー         mango มังโง : มะม่วง
13. メロン        meron  เมะรง : แตงไทย
14. レモン       remon เระมง : เลมอน
15. グアバ       kuaba กุอะบะ : ฝรั่ง
16. マンゴスチン    mangosuchin มังโงะสุจิน : มังคุด
17. ドリアン    dorianโดะเรียง : ทุเรียน
18. バナナ      banana บะนะนะ : กล้วย
19. みかん          mikan มิคัง : ส้มแมนดาริน

การพูดโทรศัพท์ในภาษาญี่ปุ่น

もし もし 
อ่านว่า โมชิ โมชิ แปลว่า ฮัลโหล

もし もし,やまださんの おたく ですか
อ่านว่า โมชิ โมชิ ยะมะดะซังโนะ โอะทะคุ เดสก๊ะ แปลว่า ที่นั่น บ้านคุณยามาดะใช่ไหมคะ

こちらは やまだです  
อ่านว่า โคะฉิระวะ ยะมะดะเดส แปลว่า นี่ยะมะดะพูด

やまださんを おねがいします。
อ่านว่า ยามาดะซังโอ๊ะ โอะเนะงัยชิมัส แปลว่า ขอสายคุณยามาดะ

もし もし、やまださんですか。 
อ่านว่า โมชิ โมชิ ยะมะดะซังเดสก๊ะ แปลว่า นั่นคุณยะมะดาใช่ไหมคะ

えいごで はなしても いいですか。
อ่านว่า เอโกะเด๊ะ ฮะชิเตะโมะ อีเดสก๊ะ แปลว่า ขอพูดเป็นภาษาอังกฤษได้ไหม

もっと ゆっくり はなして ください。 
อ่านว่า มตโตะ ยูคคุริ ฮานะชิเตะ คุดาไซ แปลว่า กรุณาพูดช้ากว่านี้หน่อยนะคะ

また あとで でんわします。 
อ่านว่า มาตะ อะโตะเด๊ะ เดงวะชิมัส แปลว่า ฉันจะโทรไปอีก

わたしに でんわするよう つたえて ください。 
อ่านว่า วะตะชินิ เดงวะซุรุโย ทซึตะเอะเตะ คุดาไซ แปลว่า กรุณาบอกให้เค้าโทรกลับมาหาฉันด้วย

やまだから でんわが あったと つたえて ください。
 อ่านว่า ยะมะดะคะระ เดงวะก๊ะ อัตตะโตะ ทซึตะเอะเตะ คุดาไซ แปลว่า กรุณาบอกเขาว่ายามาดะโทรมา

การนับตัวเลขในภาษาญี่ปุ่น




รูปประโยคที่อาจได้ยินจากพนักงานโรงแรม

いらっしゃいませ。
Irasshaimase.
ยินดีต้อนรับครับ

何泊なさいますか?
Nan-paku nasaimasu ka?
จะพักกี่คืนหรือคะ?

何名様ですか?
Nan-mei sama desu ka?
มากี่ท่านหรือครับ?

シングルとダブルのどちらがよろしいですか?
Shinguru to Daburu no dochira ga yoroshii desu ka?
ห้องแบบเตียงเดียว กับ ห้องแบบเตียงใหญ่ จะเลือกแบบไหนหรือคะ?

ダブルのベッドがよろしいですか?
Daburu no beddo ga yoroshii desu ka?
ต้องการเตียงคู่ไหมครับ?

お名前をお願いします。
O-namae o onegaishimasu.
ขอชื่อของคุณด้วยค่ะ

クレジットカードをお持ちですか?
Kurejitto kaado o-mochi desu ka?
มีบัตรเครดิตไหมครับ?

朝食付きで一泊一万円になります。
Choushoku tsuki de ip-paku ichi-man en ni narimasu.
ราคา ( ค่าห้อง ) 10,000 เยน ต่อหนึ่งคืน รวมอาหารเช้า ค่ะ

申し訳ありませんが、満室です。
Moushiwake arimasen ga, manshitsu desu.
ต้องขอประทานโทษด้วยนะครับ ตอนนี้ ( ห้อง ) เต็มแล้วครับ

お部屋を予約していらっしゃいますか?
O-heya o yoyakushite irasshaimasu ka?
( คุณ ) ได้จองไว้แล้วหรือยังคะ?

パスポトを見せていただけますか?
Pasupoto o misete itadakemasu ka?
ขอดูพาสปอร์ต ( ของคุณ ) หน่อยได้ไหมครับ?

お支払いはどのようになさいますか?
O-shiharai wa dono youni nasaimasu ka?
จะชำระเงินแบบไหนหรือคะ?

คำทักทายในภาษาญี่ปุ่น

1. はじめまして。ชื่อ で す。どうぞ よろしく。
Hajimemae.  ชื่อ desu. Douzo yoroshiku. ฮะจิเมะมาชิเตะ  (ชื่อ) เดส  โด้โซะ โยะโระชิคุ
ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อ .... ครับ/ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ/ค่ะ

2. おはよう ございます。
Ohayou gozaimasu. โอะฮาโย โกไซอิมัส  สวัสดีตอนเช้า

3.こんにちは。
Konnichiwa  คอนนิจิวะ  สวัสดีตอนบ่าย

4.こんばんは。
Konbanwa   คอนบังวะ  สวัสดีตอนกลางคืน

5.おやすみなさい。
Oyasuminasai.  โอะยะซุมินะไซ  ราตรีสวัสดิ์

6.ありがとう ございます。
Arigatou gozaimasu.  อะริกะโต่ โกะไซอิมัส  ขอบคุณมากครับ/ค่ะ

7.どういたしまして。
Douitashimae.   โดอิตะชิมะชิเตะ  ไม่เป็นไรครับ/ค่ะ

8.あついですね。
Atsuidesune.   อะซึ่ย เดสเนะ  ร้อนจังนะครับ/ค่ะ

9.さむいですね。
Samuidesune.  ซะมุ่ย เดสเนะ  หนาวจังนะครับ/ค่ะ

10.いいてんきですね。
Iitenkidesune.  อี้เตงกิเดสเนะ   อากาศดีจังนะครับ/ค่ะ

11.あめですね。
Amedesune.  อะเมะ เดสเนะ  ฝนจะตกนะครับ/ค่ะ

12.すみません/すいません。
Sumimasen/suimasen.  ซุมิมะเซง/ซุยมะเซง   ขอโทษนะครับ/ค่ะ (Excuse me)

13.ごめんなさい。
Gomennasai.  โกเมงนาไซ   ขอโทษนะครับ/ค่ะ (Ì’m sorry)

14.すいません。もう いちど おねがいしま す。
Suimasen. Mouichido onegaishimasu.  ซุมิมะเซง โม่อิจิโดะ โอะเนไกชิมัส
ขอโทษนะครับ รบกวนขออีกครั้งหนึ่งครับ/ค่ะ

15.どうぞ こちらへ。
Douzo.kochira he   โดโซะ โคะฉิระเอ๊ะ   เชิญทางนี้เลยครับ/ค่ะ

16.どうぞ おはいり ください。
Douzo ohairi kudasai.   โดโซะ โอะไฮริ คุดะไซ   เชิญเข้ามาด้านในเลยครับ/ค่ะ

17.ชื่อคนに  よろしく。
ชื่อ คน ni yoroshiku.  (ชื่อคน) นิ โยะโระชิคุ   ฝากสวัสดี คุณ .... ด้วยนะครับ/ค่ะ

การออกเสียงพยัญชนะ







ลักษณะอักษรทั้ง 3 ชนิด

1.) ฮิระงะนะ  ひらがな  (Hiragana)
 มีจำนวน  46  ตัวอักษร



a , i , u , e , o จะเป็นสระ เหมือนภาษาอังกฤษ


2.)  คะตะคะนะ  カタカナ (Katakana)
มีจำนวนตัวอักษร  46  ตัวเท่ากับฮิระงะนะ  ไว้ใช้กับศัพท์ที่มาจากต่างประเทศ





3.)  คันจิ  漢字 (Kanji)

          เป็นตัวอักษรที่คนญี่ปุ่นยืมมาจากจีน  ส่วนมากจะเหมือนคำจากภาษาจีนเลย ส่วนที่เหลือญี่ปุ่นก็นำมาดัดแปลงเอง  ใช้แสดง คำนาม ,กริยา  คนญี่ปุ่นมักจะใช้ คันจิ ผสมกัน ฮิระงะนะ หรือ คะตะคะนะ   

คันจิจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ

1. คุงโยมิ  [ คันจิ + ฮิระงะนะ ]  เป็น เสียงแบบญี่ปุ่น

2. องโยมิ  เป็นเสียงอ่านแบบภาษาจีน  จะอ่านแบบนี้เมื่อเจอ คันจิ 2 ตัวขึ้นไป 

ประเทศญี่ปุ่นมีการบัญญัติให้ใช้ คันจิ ในชีวิตประจำวัน   2000  -  3000 ตัว  เรียกว่าคนญี่ปุ่นเองยังจำแทบไม่หมดเลย





ภาษาญี่ปุ่นไม่ยากอย่างที่คิด

 ตัวอักษรในภาษาญี่ปุ่นมี 3 ชนิด ประกอบด้วย 

  1. ฮิรางานะ (Hiragana)
          ประกอบด้วยตัวอักษรทั้งสิ้น 46 ตัว แต่ละตัวจะมีเสียงอ่านในตัวอักษรนั้น เช่น に(ni) ほ(ho) ん(n) ซึ่งเมื่อเขียนต่อกันก็จะได้เป็น にほん(nihon) ซึ่งมีความหมาย คือ ญี่ปุ่น
          ในการเรียนภาษาญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะเริ่มจากการแทนตัวอักษรญี่ปุ่นด้วยภาษาอังกฤษ (โรมาจิ) และเมื่อเริ่มคุ้นเคยแล้ว ก็จะเริ่มจำฮิรางานะ คาตาคานะ และคันจิ ต่อไปตามลำดับ
  2. คาตาคานะ (Katakana)
          ประกอบด้วยตัวอักษร 46 ตัว เช่นเดียวกับฮิรางานะ และอ่านออกเสียงเหมือนกัน เพียงแต่มีวิธีการเขียนแตกต่างกับฮิรางานะเท่านั้น
          คาตาคานะมักจะใช้แทนคำที่ทับศัพท์มากจากภาษาต่างชาติ เช่น テ(te) レ(re) ビ(bi) ซึ่งเมื่อเขียนต่อกันก็จะได้เป็น テレビ(terebi) ซึ่งเป็นการทับศัพท์และย่อให้กระชับจากคำว่าโทรทัศน์ (televison) เป็นต้น
  3. คันจิ (Kanji)
          เป็นตัวอักษรจีน ซึ่งญี่ปุ่นได้ดัดแปลงบางส่วนให้กระชับขึ้น มีทั้งสิ้นประมาณ 5,000 ตัว แต่ที่ใช้โดยทั่วไปมีประมาณ 1,800 ตัว แต่ละตัวจะมีความหมายและวิธีอ่านออกเสียงเป็นการเฉพาะ จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เริ่มศึกษาใหม่อาจจะตั้งเป้าหมายว่าจะจำตัวคันจิเบื้องต้นประมาณ 50-100 ตัว

    นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรฐานการเขียนคำอ่านภาษาญี่ปุ่น ด้วยภาษาอังกฤษอีก 1 ชนิด คือ โรมาจิ ดังนี้
  4. โรมาจิ (Romaji)
          เป็นอักษรภาษาอังกฤษที่ใช้แทนการเขียนอ่านด้วยภาษาญี่ปุ่น มีหลักเกณฑ์มาตรฐานที่ชัดเจน จึงมีความสะดวกต่อชาวต่างชาติในการฝึกเรียนภาษาญี่ปุ่นด้วยการเขียนและอ่านด้วยอักษรโรมาจินี้

    สำหรับเว็บไซต์นี้จะใช้อักษรโรมาจิ และฮิรางานะ ในการอธิบายเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับภาษาญี่ปุ่น อาจจะไม่ทราบวิธีอ่านออกเสียงอักษรโรมาจิ ดั้งนั้น เพื่อเป็นแนวทางคร่าวๆ จึงได้เพิ่มเติมวิธีอ่านอักษรโรมาจิเป็นภาษาไทยในไว้อีก 1 หัวข้อ ดังนี้
  5. คำอ่านภาษาไทย
          เป็นวิธีการอ่านอักษรโรมาจิ เป็นภาษาไทย เพื่อให้ผู้ที่เริ่มศึกษาภาษาญี่ปุ่นมีแนวทางในการฝึกออกเสียง แต่เนื่องจากมีคำญี่ปุ่นบางคำ อาจเทียบเสียงเป็นภาษาไทยไม่ได้ จึงควรหาโอกาสฟังสำเนียงที่ถูกต้อง และฝึกฝนอย่างถูกต้องต่อไป